กระบวนการขั้นตอนการรักษาและกลไกการออกฤทธิ์

ภายใต้การนำของกล้องอัลตร้าซาวด์จะใช้เข็มขนาดความหนาประมาณ 1-2 มิลลิเมตรเจาะเข้าไปบริเวณถุงน้ำเพื่อดูเอาของเหลวที่อยู่ในซีสต์ออก ขณะทำการดูดของเหลวภายในถุงน้ำออกนั้นจะมีการทำการรักษาให้ถุงน้ำเกิดการแข็งตัว โดยใช้แอลกอฮอล์บริสุทธิ์เป็นตัวเร่งให้เกิดการแข็งตัวของเนื้อเยื่อ โดยแอลกอฮอล์บริสุทธิ์จะเข้าไปทำลายองค์ประกอบภายในเซลล์เนื้อเยื่อ ส่งผลให้เนื้อเยื่อเกิดอาการขาดสมดุลของความชุ่มชื้น ทำให้เนื้อเยื่อไม่สามารถเจริญเติบโต เนื้อเยื่อระหว่างเซลล์ขาดออกและตายลงในที่สุด

แผลที่เกิดจากการรักษามีขนาดเล็กมาก หลังการรักษาเสร็จสิ้นไม่จำเป็นที่จะต้องทำการเย็บแผล การรักษาจะมีการให้ยาสลบผ่านทางเส้นเลือดผู้ป่วยจะหลับไปขณะทำการผ่าตัด ทำให้การผ่าตัดชนิดนี้ไร้ความเจ็บปวดจะมีแค่ความเจ็บเพียงเล็กน้อยหลังการผ่าตัดเสร็จเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องทานยาแก้ปวด

ข้อดีของการผ่าตัดด้วยวิธีนี้

ต่างจากการผ่าตัดแบบดั้งเดิมที่ “เจาะผ่านทางช่องคลอด + การฉีดแอลกอฮอล์บริสุทธิ์” จะมีอัตราการบาดเจ็บต่ำมาก ไร้แผลจากการผ่าตัดและมีเลือดออกน้อย หลังการผ่าตัดชนิดนี้แทบไม่มีผลต่อใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ต้องพักฟื้นในโรงพยาบาล สามารถทำการผ่าตัดและออกจากโรงพยาบาลได้ในวันเดียวกัน(หลังจากฟื้นตัวจากยาสลบก็สามารถออกจากโรงพยบาบาลได้ทันที) โดยใช้การอัลตร้าซาวด์เป็นเครื่องนำทางทำให้ลดการเกิดพังพืดระหว่างเนื้อเยื่อได้ และผลที่ได้รับจากการรักษาเทียบเท่ากับการส่องกล้องผ่าตัดผ่านทางหน้าท้อง และเนื่องมาจากการรักษาด้วยวิธีนี้นั้น ง่าย มีความแม่นยำสูง ปลอดภัย ราคาย่อมเยาว์ สามารถทำซ้ำได้ ระยะเวลาในการผ่าตัดสั้น และแทบจะไม่มีผลกระทบต่างๆตามมาเพราะฉะนั้นการรักษาด้วยวิธีนี้เป็นการรักษาที่ได้รับความนิยมมากจากผู้ป่วย การรักษาด้วยวิธีนี้ยังสามารถหลีกเลี่ยงการกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อรังไข่ ซึ่งจะมีผลต่อความสามารถในการตั้งครรภ์ในภายหลังได้

ผู้ป่วยที่เหมาะกับการรักษา

เหมาะกับผู้ป่วยซึ่งขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของถุงน้ำเท่ากับหรือมากกว่า 3 เซนติเมตร ถึงจะสามารถทำการเร่งการแข็งตัวด้วยการฉีดแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ได้ หากถุงน้ำมีขนาดเล็กและมีอาการไม่เด่นชัดไม่จำเป็นต้องทำการรักษา หากขนาดของถุงน้ำเล็กเกินไปจะทำให้ยากต่อการเจาะเพื่อฉีดแอลกอฮอล์เข้าไป

และเพื่อให้แน่ใจได้ว่าถุงน้ำในรังไข่ที่ท่านเป็นอยู่นั้นเหมาะสำหรับวิธีการเจาะเพื่อทำการรักษา จะต้องมีการตรวจอย่งละเอียดด้วยการส่องกล้องอัลตร้าซาวด์ หากในถุงน้ำมีเนื้อเยื่ออยู่ภายในจะไม่เหมาะสมกับการรักษาด้วยวิธีนี้ การตรวจด้วยวิธีการตรวจคัดกรองมะเร็งสามารถนำมาใช้ในการตรวจลักษณะโดยรวมของถุงน้ำในรังไข่ได้อีกด้วย หากของเหลวภายในถุงน้ำในรังไข่มีความหนืดจะมีโอกาสสูงในการกลายพันธุ์เป็นเนื้อเยื่อมะเร็ง หากระหว่างการผ่าตัดพบว่าของเหลวภายในถุงน้ำมีความหนืด เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วยอาจจะต้องเปลี่ยนการผ่าตัดเป็นการผ่าตัดผ่านทางหน้าท้อง